ซอคเกอร์ - 'บาร์ซ่า'ฉะ'นาโปลี'ชิงเข้ารอบชปล. - ข่าวสด

newsboomboom.blogspot.com

‘บาร์ซ่า’ฉะ‘นาโปลี’ชิงเข้ารอบชปล. - ศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก จะจบโปรแกรมรอบ 16 ทีมสุดท้ายในค่ำคืนนี้ โดยคู่ระหว่างบาร์เซโลนา-นาโปลี สถานการณ์ยังสูสีกันอยู่

ส่วนอีกคู่บาเยิร์น มิวนิก-เชลซี ดูเหมือนจะมีฝั่งหนึ่งได้เปรียบมากโข แต่สุดท้าย 2 ทีมไหนจะได้เข้ารอบต่อไป ต้องมารอดูกัน

วันเสาร์ที่ 8 สิงหาคม 2563ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดที่สอง

บาเยิร์น มิวนิก - เชลซี “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิก จากเยอรมนี เปิดสนามอัลลิอันซ์ อารีน่า รับการมาเยือนของ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี จากอังกฤษ นัดแรก บาเยิร์นบุกชนะมาก่อน 3-0

ย้อนเส้นทางที่ผ่านมา บาเยิร์นเริ่มต้นจากรอบแบ่งกลุ่ม โดยอยู่กลุ่มบีร่วมกับท็อตแนม ฮอตสเปอร์, โอลิมเปียกอส, เชอร์เวนา ซเวซดา

บาเยิร์นคว้าแชมป์กลุ่มนี้ด้วยผลงานเตะ 6 นัดชนะรวด เก็บไป 18 คะแนนเต็ม โดยชนะเชอร์เวนา ซเวซดา 3-0 (เหย้า), ชนะท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 7-2 (เยือน), ชนะโอลิมเปียกอส 3-2 (เยือน), ชนะ โอลิมเปียกอส 2-0 (เหย้า) ชนะเชอร์เวนา ซเวซดา 6-0 (เยือน), ชนะท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 3-1 (เหย้า)

ด้านเชลซีเริ่มจากรอบแบ่งกลุ่มเช่นกัน โดยอยู่กลุ่มเอชร่วมกับบาเลนเซีย, อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม, ลีลล์

เชลซีได้รองแชมป์กลุ่มนี้ด้วยผลงานแข่ง 6 นัด ชนะ 3 เสมอ 2 แพ้ 1 เก็บไป 11 คะแนน โดยแพ้บาเลนเซีย 0-1 (เหย้า), ชนะลีลล์ 2-1 (เยือน), ชนะอาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม 1-0 (เยือน), เสมออาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม 4-4 (เหย้า) เสมอบาเลนเซีย 2-2 (เยือน), ชนะลีลล์ 2-1 (เหย้า)

ส่วนผลงานในลีก ทั้งคู่ต่างเตะจบฤดูกาลไปแล้ว บาเยิร์นแข่งบุนเดสลีกา 34 นัด เก็บไป 82 คะแนน คว้าแชมป์อีกสมัย ด้านเชลซีเตะพรีเมียร์ลีก 38 นัด ทำได้ 66 แต้ม จบที่ 4
เช็กฟอร์มเกมทางการรอบ 5 นัดหลังสุด บาเยิร์นชนะรวดทั้ง 5 นัด โดยชนะโบรุสเซีย มึนเชนกลัดบัก 2-1 (เหย้า), ชนะแวร์เดอร์ เบรเมน 1-0 (เยือน), ชนะ ไฟรบวร์ก 3-1 (เหย้า), ชนะโวล์ฟสบวร์ก 4-0 (เยือน), ชนะไบเออร์ เลเวอร์คูเซน 4-2 (สนามกลาง)

ด้านเชลซีชนะ 3 แพ้ 2 โดยชนะนอริช ซิตี้ 1-0 (เหย้า), ชนะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3-1 (สนามกลาง), แพ้ลิเวอร์พูล 3-5 (เยือน), ชนะวูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส 2-0 (เหย้า), แพ้อาร์เซนอล 1-2 (สนามกลาง)

เกมนี้คาดว่าบาเยิร์นจะใช้แผน 4-2-3-1 มานูเอล นอยเออร์ : โยชัว คิมมิก, เยโรม บัวเต็ง, ดาวิด อลาบา, อัลฟอนโซ เดวิส : เลออน โกเรตซ์กา, ติอาโก อัลคันตารา : คิงสเลย์ โกม็อง, โธมัส มุลเลอร์, แซร์ช นาบรี : โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี

ขณะเชลซีเตรียมวางหมาก 3-4-3 วิลลี กาบาเยโร : เคิร์ต ซูมา, อันเดรียส คริสเตียนเซน, อันโตนิโอ รูดิเกอร์ : รีซ เจมส์, เอ็นโกโล ก็องเต, มาเตโอ โควาชิช, เอแมร์สัน พัลมิรี : วิลเลียน, โอลิวิเยร์ ชิรูด์, เมสัน เมาต์

บาเยิร์นปิดฤดูกาลลีกเร็ว ทำให้ห่างเกมที่ต้องจริงจังไปพอสมควร แต่เชลซีเองก็ตกอยู่ภายใต้สถานการณ์ที่เสียเปรียบเกินไป เชื่อว่าเกมนี้น่าจบเจ๊า “เสือใต้” คงไม่พลาดผ่านเข้ารอบ

บาร์เซโลนา - นาโปลี “เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลนา จากสเปน เปิดสนามคัมป์ นู รับการมาเยือนของ “อัซซูรา” นาโปลี นัดแรกเสมอกันมา 1-1

ย้อนเส้นทางที่ผ่านมา บาร์เซโลนาเริ่มต้นจากรอบแบ่งกลุ่ม โดยอยู่กลุ่มเอร่วมกับโบรุสเซีย ดอร์ตมุนด์, อินเตอร์ มิลาน, สลาเวีย ปราก

บาร์เซโลนาคว้าแชมป์กลุ่มนี้ด้วยผลงานเตะ 6 นัด ชนะ 4 เสมอ 2 เก็บไป 14 คะแนน โดยเสมอโบรุสเซีย ดอร์ตมุนด์ 0-0 (เยือน), ชนะอินเตอร์ มิลาน 2-1 (เหย้า), ชนะสลาเวีย ปราก 2-1 (เยือน), เสมอสลาเวีย ปราก 0-0 (เหย้า), ชนะโบรุสเซีย ดอร์ตมุนด์ 3-1 (เหย้า), ชนะอินเตอร์ มิลาน 2-1 (เยือน)
ด้านนาโปลีเริ่มจากรอบแบ่งกลุ่มเช่นกัน โดยอยู่กลุ่มอีร่วมกับลิเวอร์พูล, เรดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก, เกงก์

นาโปลีได้รองแชมป์กลุ่มนี้ด้วยผลงานแข่ง 6 นัด ชนะ 3 เสมอ 3 เก็บไป 12 คะแนน โดยชนะลิเวอร์พูล 2-0 (เหย้า), เสมอเกงก์ 0-0 (เยือน), ชนะเรดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก 3-2 (เยือน), เสมอเรดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก 1-1 (เหย้า), เสมอลิเวอร์พูล 1-1 (เยือน), ชนะเกงก์ 4-0 (เหย้า)

ส่วนผลงานในลีก ทั้งคู่ต่างเตะจบฤดูกาลไปแล้ว บาร์เซโลนาแข่งลา ลีกา 38 นัด เก็บไป 82 คะแนน ได้รองแชมป์ ขณะที่นาโปลีเตะเซเรีย อา 38 นัด ทำได้ 62 คะแนน จบอันดับ 7

เช็กฟอร์มรอบ 5 นัดหลังสุด บาร์เซโลนา ชนะ 4 แพ้ 1 โดยชนะบียาร์เรอัล 4-1 (เยือน), ชนะเอสปันญอล 1-0 (เหย้า), ชนะเรอัล บายาโดลิด 1-0 (เยือน), แพ้โอซาซูนา 1-2 (เหย้า), ชนะเดปอร์ติโบ อลาเบส 5-0 (เยือน)

ขณะที่นาโปลีชนะ 3 แพ้ 2 โดยชนะอูดิเนเซ 2-1 (เหย้า), แพ้ปาร์มา 1-2 (เยือน), ชนะซาสซูโอโล 2-0 (เหย้า), แพ้อินเตอร์ มิลาน 0-2 (เยือน), ชนะลาซิโอ 3-1 (เหย้า)

เกมนี้คาดว่าบาร์เซโลนาจะใช้แผน 4-3-3 มาร์ก-อังเดร แทร์ สเตเกน : เนลสัน เซเมโด, เคราร์ด ปิเก, เกลมองต์ ลองเลต์, จอร์ดี อัลบา : เซร์กี โรเบร์โต, เฟรนกี เดอ ยอง, อิวาน ราคิติช : ลิโอเนล เมสซี, หลุยส์ ซัวเรซ, อองตวน กรีซมันน์

ด้านนาโปลีคงจัดหมาก 4-3-3 ดาบิด ออสปินา : โจวานนี ดิ ลอเรนโซ, คอสตาส มาโนลาส, คาลิดู คูลิบาลี, มาริโอ รุย : ฟาเบียน รุยซ์, ดิเอโก เดมเม, ปิโอเตอร์ ซีลินสกี : โฆเซ กาเยฆอน, ดรีส เมอร์เทนส์, เอลิฟ เอลมาส

แม้สกอร์จะเสมอกันอยู่ แต่สถานการณ์เป็นบาร์เซโลนาที่กุมความได้เปรียบ บวกกับประสบการณ์ในระดับยุโรปที่เหนือกว่าเยอะด้วย “เจ้าบุญทุ่ม” น่าชนะผ่านเข้ารอบต่อไป